ในระหว่างกระบวนการเรียนรู้ ผู้บริหารของบริษัท Hongji เข้าใจแนวคิดของ "การพยายามอย่างสุดความสามารถ" เป็นอย่างดี พวกเขาตระหนักดีว่าการทุ่มเทสุดความสามารถเท่านั้นที่จะทำให้พวกเขาโดดเด่นในตลาดที่มีการแข่งขันสูง พวกเขายึดมั่นในทัศนคติที่ว่า "จงถ่อมตัวและไม่หลงตัวเอง" โดยรักษาความสุภาพเรียบร้อยและไตร่ตรองข้อบกพร่องของตนเองอยู่เสมอ การไตร่ตรองประจำวันทำให้พวกเขาสามารถสรุปประสบการณ์และบทเรียนได้อย่างทันท่วงที และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง "จงรู้สึกขอบคุณตราบเท่าที่คุณยังมีชีวิตอยู่" ทำให้พวกเขารู้สึกขอบคุณและหวงแหนทรัพยากรและโอกาสทั้งหมดที่พวกเขามี "สะสมความดีและคิดถึงประโยชน์ต่อผู้อื่นอยู่เสมอ" ชี้แนะให้พวกเขาใส่ใจสังคมอย่างจริงจังและสร้างคุณค่าให้กับผู้อื่นในขณะที่มุ่งมั่นพัฒนาองค์กร และ "อย่ากังวลกับอารมณ์ที่มากเกินไป" ช่วยให้พวกเขาสงบและมีเหตุผลเมื่อเผชิญกับความยากลำบากและแรงกดดัน และรับมือกับความท้าทายด้วยทัศนคติเชิงบวก

ในช่วงการเรียนรู้ ไม่เพียงแต่มีการอภิปรายเชิงลึกเกี่ยวกับทฤษฎีเท่านั้น แต่ยังมีกิจกรรมปฏิบัติจริงมากมายที่จัดขึ้น การชมภาพยนตร์สร้างแรงบันดาลใจเป็นแรงบันดาลใจให้พวกเขาเดินหน้าต่อไปอย่างกล้าหาญ เกมทีมมากมายทำให้พวกเขาเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงความหมายที่แท้จริงว่าทีมจะเป็นทีมได้ก็ต่อเมื่อใจเป็นหนึ่งเดียวกัน และไม่ว่าจะเผชิญกับความยากลำบากใดๆ ก็ตาม พวกเขาก็ไม่ควรละทิ้งสมาชิกในทีม กิจกรรมการเรียกชื่อในวันสุดท้ายมีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยการเก็บขยะเพื่อทำความสะอาดเมืองฉือเจียจวง พวกเขามีส่วนสนับสนุนต่อสภาพแวดล้อมในเมืองด้วยการกระทำจริง แสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กร การซื้อของขวัญให้คนแปลกหน้าเพื่อสื่อถึงความอบอุ่นและความเมตตา แม้ว่าจะมีทั้งความล้มเหลวและความสำเร็จในการเรียกชื่อตอนเที่ยง แต่ประสบการณ์และความเข้าใจในกระบวนการนี้จะกลายมาเป็นทรัพย์สมบัติอันล้ำค่าของพวกเขา
กิจกรรมนี้ทำให้ผู้บริหารระดับสูงของบริษัท Hongji มีความรู้แจ้งและมีอิทธิพลเชิงบวกอย่างลึกซึ้ง เชื่อกันว่าพวกเขาจะนำสิ่งที่เรียนรู้และตระหนักรู้มาปรับใช้ในการบริหารจัดการองค์กร นำพาบริษัทไปสู่อนาคตที่รุ่งโรจน์ยิ่งขึ้น และในขณะเดียวกันก็ถ่ายทอดพลังงานเชิงบวกให้กับสังคมมากขึ้น



เวลาโพสต์ : 15 พ.ย. 2567